ด้วยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโกได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวและชาวไทยที่พำนักอยู่ในชิลี ว่าถูกโจรกรรมทรัพย์สินมีค่าบ่อยครั้งขึ้น แม้แต่ในย่านและเวลาที่เคยนับว่าปลอดภัย รวมถึงมีรายงานการเกิดเหตุอาชญากรรมรุนแรงสูงขึ้น เช่น การทุบและดักปล้นรถยนต์ การทำร้ายร่างกาย รวมถึงการบุกเข้าไปขโมยสิ่งของในที่อยู่อาศัย

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแสดงความห่วงใยแก่นักท่องเที่ยวและคนไทยที่พำนักในชิลี และขอแจ้งข้อแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางในประเทศชิลี ดังนี้

 

- โปรดระมัดระวังตัวมากขึ้น โดยเฉพาะตามสถานที่ชุมชนหนาแน่น เช่น สถานีรถไฟ/รถโดยสาร สนามบิน ถนนคนเดิน ล็อบบี้โรงแรม หรือภายในรถไฟ/รถโดยสาร ซึ่งอาจมีคนแปลกหน้าพยายามเข้ามาพูดคุยและฉวยโอกาสขโมยสิ่งของ ใช้กำลังขู่เข็ญเพื่อเอาทรัพย์สิน หรือแกล้งทำน้ำหกใส่ เพื่อดึงดูดความสนใจก่อนขโมยทรัพย์สิน

 

- หากถูกบังคับเอาทรัพย์สิน อย่าขัดขืนหรือต่อสู้ เนื่องจากโจรส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่มมากกว่า 1 คน และอาจใช้อาวุธทำร้ายร่างกายได้

 

- หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยลำพังในเวลากลางคืน หากจำเป็นควรใช้บริการรถแท็กซี่ลงทะเบียนที่เรียกจากโทรศัพท์มือถือ

 

- ไม่พกเงินสดจำนวนมาก เก็บสิ่งของมีค่าไว้กับตัวตลอดเวลา และอย่าทิ้งสิ่งของมีค่าไว้ในรถ โดยโจรอาจใช้สัญญาณ Bluetooth ของอุปกรณ์สื่อสารเพื่อดูว่าภายในรถมีโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทิ้งไว้หรือไม่

 

- พกสำเนาหนังสือเดินทางและบัตรประชาชนไทยติดตัวไว้ โดยเก็บฉบับจริงไว้ในที่พัก

 

- เก็บบัตรเครดิตไว้กับตัวตลอดเวลา ไม่ส่งบัตรให้กับพนักงานหรือบริกร และระมัดระวังในการกดรหัสบัตรเครดิตหรือ ATM

 

- ในช่วงที่ผ่านมา มีรายงานการดักปล้นรถบริเวณเมือง Valparaiso และ Viña del Mar มากขึ้น โดยผู้ร้ายจะเจาะยางรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ให้เสียหาย เมื่อเหยื่อขับรถออกไปแล้วไม่สามารถขับต่อได้ จะเข้ามาทำทีช่วยเหลือ ก่อนปล้นหรือขโมยสิ่งของไป หากพบเหตุดังกล่าว ควรพยายามจอดรถในบริเวณที่มีคนจำนวนมาก ไม่ลงจากรถ และไม่รับความช่วยเหลือในการซ่อมรถจากคนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด

 

- ระมัดระวังการเดินทางโดยรถบัสโดยสารระหว่างเมือง โดยเฉพาะจากเมือง Calama และ San Pedro de Atacama โดยโจรมักปลอมตัวเป็นพนักงานรถโดยสารเพื่อขโมยสิ่งของที่วางไว้ในรถบัส

 

- พิจารณาซื้อประกันการเดินทางที่ครอบคลุมอุบัติเหตุและการถูกโจรกรรมทรัพย์สินระหว่างเดินทาง

 

หากประสบเหตุให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ในสถานที่นั้น เช่น เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟ สถานีรถโดยสาร และเข้าแจ้งความกับตำรวจ รวมถึงติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินหรือ Facebook : Royal Thai Embassy in Santiago, Chile