สารจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก เนื่องในโอกาสพ้นวาระจากตำแหน่ง

วันที่นำเข้าข้อมูล 30 ก.ย. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 21 ธ.ค. 2566

| 258 view

สารจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก เนื่องในโอกาสพ้นวาระจากตำแหน่ง

สวัสดีค่ะพี่น้องชาวไทยที่รักในชิลี ปานามา คอสตาริกา และเอลซัลวาดอร์ ทุกท่าน

โดยที่วาระประจำการที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโกของดิฉันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน 2566 นี้ เนื่องจากครบกำหนดเกษียณอายุราชการ ดิฉันจึงขอถือโอกาสนี้กล่าวคำอำลากับพี่น้องคนไทยทุกท่าน

ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี 2 เดือนที่ได้มาประจำการที่ประเทศชิลี ดิฉันยินดีและมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้พบปะและร่วมงานกับพี่น้องชุมชนคนไทย และขอขอบคุณชุมชนไทยสำหรับความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของสถานเอกอัครราชทูตฯ เสมอมา โดยเฉพาะกิจกรรมการส่งเสริมความรู้และพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องคนไทยที่ทำงานในชิลี ซึ่งดิฉันเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตจะมีการต่อยอดการจัดกิจกรรมให้เกิดประโยชน์ เกิดความใกล้ชิด เพื่อให้เข้าถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ชุมชนคนไทยในชิลี ปานามา คอสตาริกา และเอลซัลวาดอร์ ถือเป็นตัวแทนที่สำคัญของประเทศไทยในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศของเรา ผ่านการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของไทยให้เป็นที่รู้จักต่อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ก็ได้มีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมอาหารไทยมาโดยตลอด เช่น การสาธิตการทำอาหารไทย การจัดบรรยายเรื่องการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารของไทย แต่ที่ขาดไม่ได้คืออัธยาศัยไมตรีของคนไทยซึ่งดิฉันได้รับคำชื่นชมมาโดยตลอด ดิฉันจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุมชนไทยของเราจะมีความเข้มแข็ง สมัครสมานสามัคคีกันเช่นนี้ต่อไป เพื่อเป็นแรงสำคัญในการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในอนาคต

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดิฉันยังรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจ ที่ได้มีโอกาสจัดกิจกรรมที่สำคัญเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับชิลี โดยเฉพาะการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศในปี 2565 ซึ่งได้จัดกิจกรรมหลากหลายตลอดทั้งปี เช่น การแสดงวัฒนธรรมไทยโดยคณะนาฏศิลป์จากนครลอสแอนเจลิส การประกวดภาพวาดที่สะท้อนความยั่งยืนของชิลีและไทย นอกจากนี้ ยังมีโอกาสจัดงานเพื่อสร้างความนิยมไทย โดยการนำคณะครูมวยไทยมาเผยแพร่กีฬาประจำชาติไทยในซันติอาโกและ Punta Arenas ตลอดจนได้พบปะหารือทั้งกับผู้แทนภาครัฐ เอกชน และสาธารณชน เพื่อแสวงหาโอกาสในการสร้างร่วมมือทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรมที่แน้นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น ดิฉันยังได้มีโอกาสเดินทางไปปานามา คอสตาริกา และเอลซัลวาดอร์ ในโอกาสที่ไปยื่นพระราชสาส์นซึ่งนอกจากจะได้เยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงของประเทศทั้งสามแล้ว ยังมีโอกาสพบปะชุมชนไทยพร้อมทั้งครอบครัว และได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่นิยมมากขึ้น ตลอดจนได้แสดงความพร้อมในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการศึกษา การเกษตร และการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ที่จะช่วยให้ไทยเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของภูมิภาคอเมริกากลางต่อไป

ดิฉันขอขอบคุณชาวไทยทุกท่านอีกครั้งสำหรับไมตรีจิตและมิตรภาพที่มีต่อกัน และสุดท้ายนี้ ขออำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพบูชา ได้โปรดอำนวยพรให้พี่น้องชาวไทยและครอบครัวประสบแต่ความสุขกาย สบายใจ มีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป

¡Hasta luego!

สวัสดีค่ะ

ชนิดา กมลนาวิน

เอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก